
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม เดินหน้านโยบาย “ดีพร้อม คอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ ผลักดันโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์เต็มกำลัง สานต่อความสำเร็จโครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย และโครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย ปี 2568 หวังปั้นเชฟอาหารไทยมืออาชีพทั่วประเทศ 17,000 คน พร้อมพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนทั่วประเทศ 100 แห่ง

นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ดีพร้อมเล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมและยกระดับอาหารไทยรวมถึงเชฟอาหารไทยระดับชุมชน ให้มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นแหล่งวัตถุดิบอาหารที่สำคัญหลายชนิด จนได้รับขนานนามว่าเป็น “ครัวของโลก” ที่สำคัญ อีกทั้งอาหารไทยยังเป็นซอฟต์พาวเวอร์สำคัญ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาเยือนประเทศไทยเพิ่มขึ้นทุกปี มียอดค่าใช้จ่ายด้านอาหารมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 ของการใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด โดยในปี 2568 นี้ ดีพร้อม ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภายใต้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์จะร่วมกันเดินหน้ายกระดับและสานต่อความสำเร็จใน 2 โครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ได้แก่

1. “โครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย” เป็นการมุ่งพัฒนาองค์ความรู้และทักษะด้านอาหารไทยแก่ประชาชนที่สนใจให้เป็นแรงงานทักษะสูง โดยมีหลักสูตรที่ทันสมัยและสามารถนำไปประยุตก์ใช้ต่อยอดในการประกอบอาชีพได้เป็นอย่างดี อาทิ อาหารไทยต้นตำรับเพื่อการประกอบอาชีพ อาหารไทยสร้างสรรค์เพื่อสุขภาพขนมหวานไทยประยุกต์ อาหารไทย Street Food พร้อมขายออนไลน์ ฟิวชั่นอาหารไทยกับรสชาติสากล ซึ่งผู้เข้าอบรมจะได้รับการทดสอบความรู้ตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพและได้รับใบรับรองจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพสาขาอาหาร และสามารถนำความรู้ไปต่อยอดประกอบอาชีพเป็นเชฟต่อไป ทั้งนี้ ได้เป้าปั้นเชฟอาหารไทยมืออาชีพ จำนวน 17,000 คน ทั่วประเทศ และคาดว่าจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,036 ล้านบาท

2. “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant” โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพร้านอาหารชุมชนด้วยการเพิ่มทักษะและองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ อาทิ การคำนวณต้นทุน การบริหารจัดการของเสีย เทคนิคการประกอบอาหารและสร้างสรรค์เมนูใหม่เพื่อนักท่องเที่ยว (เมนูอาหารถิ่น Amazing Thai Taste) นอกจากนี้ ยังยกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนสู่ร้านอาหารระดับพรีเมียน การเตรียมความพร้อมร้านอาหารซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากล การเชื่อมโยงสู่เทคโนโลยีเพิ่มช่องทางการตลาด ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นร้านอาหารเชฟชุมชน อาหารถิ่นไทยแบบมืออาชีพ อันจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ และนำไปสู่การสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชน จำนวน 100 ร้าน ทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเกิดจ้างงานและใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นกว่า 120 ล้านบาท และเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 336 ล้านบาท
“สำหรับการดำเนินงานขับเคลื่อนและผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อุตสาหกรรมอาหารทั้ง 2 โครงการนี้ดีพร้อมได้นำกลไกของ Soft Power มาเป็นเครื่องมือในการสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าที่โดดเด่น แตกต่าง และตอบโจทย์ตลาด ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ ได้แก่
1. ให้ทักษะใหม่ : ผ่านการอบรมเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ พัฒนาเป็นอาชีพและต่อยอดสู่ธุรกิจ 2. ให้เครื่องมือทันสมัย : เสริมศักยภาพด้วยเครื่องมือที่จะช่วยในการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้า 3. ให้โอกาสโตไกล : เข้าถึงตลาด ช่องทางจัดจำหน่าย และการเข้าถึงแหล่งทุน และ 4. ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน สอดรับกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งสร้างโอกาสสร้างรายได้ และเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย พร้อมกันนี้ ยังช่วยผลักดันซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร
ตามกลไก OFOS (One Family One Soft Power) ของรัฐบาลได้อย่างก้าวหน้าและครบทุกมิติ” นางสาวณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย
“ดีพร้อม” เชื่อมั่นว่า การขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร ดังกล่าวนี้ จะสามารถพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมอาหารไทยในหลากหลายมิติ และเป็นอีกหนึ่งพลัง Soft Power อาหารไทยผ่านการนำวัตถุดิบพื้นถิ่น มารังสรรค์เมนู บอกเล่าคุณค่าและเรื่องราว (Story Telling) ด้วยการโน้มน้าวและเผยแพร่ความมีเสน่ห์ของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จัก เกิดการยอมรับในระดับนานาชาติ รวมถึงทูตวัฒนธรรมด้านอาหารที่สามารถถ่ายทอดรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ผ่านการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการสร้างงานและกระจายรายได้ในพื้นที่ นางสาวณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย