
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ เป็น “สื่อกลาง” ส่งมอบความช่วยเหลือถึงกลุ่มเปราะบางและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดย นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของการเคหะแห่งชาติ รับมอบเงินบริจาค และสิ่งของอุปโภค-บริโภค พร้อมสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อนำไปส่งต่อให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำไปช่วยเหลือประชาชนกลุ่มดังกล่าวต่อไป เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ณ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ตามนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้ความสำคัญกับการดูแลช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยการเคหะแห่งชาติพร้อมเป็น “สื่อกลาง” ส่งมอบความช่วยเหลือถึงกลุ่มเปราะบางที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนต่าง ๆ ในสถานการณ์ความยากลำบากที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ผ่านกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยเปิดรับบริจาคสิ่งของใช้จำเป็น ณ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2568 เพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มเปราะบางและประชาชน 4 จังหวัดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
สำหรับภาคีเครือข่ายที่ร่วมบริจาคเงิน และสิ่งของอุปโภค-บริโภค พร้อมสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน มูลค่ารวมทั้งสิ้น 92,000 บาท ได้แก่ ตลาดบวรร่มเกล้า, ชมรมคนรักษ์ร่มเกล้า คณะกรรมการชุมชนและคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดเคหะชุมชนร่มเกล้า, นิติบุคคลอาคารชุดบ้านเอื้ออาทรประชาพัฒนา 1–5, บริษัท รักษาความปลอดภัยสยามสกาย จำกัด, บริษัท วิสต้าไลน์ จำกัด, บริษัท T1 ออแกนไนซ์ จำกัด, บริษัท ทีมวิศว์คอนสตรัคชั่น จำกัด,อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้งเมืองใหม่บางพลี, สหกรณ์ออมทรัพย์การเคหะแห่งชาติ, สภาชุมชนเคหะห้วยขวาง, สมาพันธ์เคหะชุมชนคลองจั่น และคณะกรรมการชุมชน นิติบุคลอาคารชุดภายในโครงการเคหะชุมชนคลองจั่น ซึ่งสิ่งของอุปโภค-บริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร, อาหารแห้ง, นมผงสำหรับเด็ก, นมกล่อง, ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูป, ผ้าอ้อมผู้ใหญ่, น้ำยาซักฟอก, อาหารกระป๋อง เป็นต้น โดยการสนับสนุนครั้งนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของทุกภาคส่วนที่พร้อมเคียงข้างและร่วมขับเคลื่อนสังคมไทยให้มั่นคงและเข้มแข็ง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศต้องการความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วน

“การเคหะแห่งชาติขอขอบคุณในน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของทุกภาคส่วนที่ร่วมเป็นพลังสำคัญในการช่วยเหลือสังคม พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นในการเป็น “สื่อกลางแห่งความห่วงใย” ตามนโยบายบายของ รมว.พม. ในการเร่งดูแลช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง” นายทวีพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย