
กรมพัฒนาธุรกิจฯ มองเห็นโอกาส ‘ความหลากหลาย’ จับมือ สมาคม TBLC เปิดมิติใหม่ทางธุรกิจสร้างรูปแบบการตลาดแนวใหม่ ‘คอนเทนต์วาย’ ส่งเสริมภาคบริการไทยสู่สากลที่เป็นมิตรต่อทุกกลุ่มผสาน ‘บริการมืออาชีพ’ และ ‘คอนเทนต์วาย’ เสริมความหลากหลาย สนับสนุนธุรกิจบริการ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มองเห็นโอกาส ‘ความหลากหลาย’ ขยายธุรกิจบริการไทยผ่าน ‘คอนเทนต์วาย’ จับมือสมาคมส่งเสริมคอนเทนต์ วาย ไทย (Thai Association of Boys Love and Girls Love Content : TBLC) ร่วมเปิดมิติใหม่ทางธุรกิจ นำพลังความหลากหลายสร้างรูปแบบการตลาดแนวใหม่ สนับสนุนธุรกิจบริการไทยสู่สากลที่เป็นมิตรต่อทุกกลุ่ม ใช้เป็นแรงขับเคลื่อนสร้างกระแสความนิยม ส่งเสริมเศรษฐกิจทุกมิติ ผสาน ‘การบริการมืออาชีพ’ และ ‘คอนเทนต์วาย’ เน้นสร้างความต้องการใช้บริการด้วยพลังคอนเทนต์เพื่อนำเสนอธุรกิจบริการไทยที่ดี มีคุณภาพ มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น ส่งเสริมภาคบริการไทยทั้งระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และระดับส่งออก
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ปัจจุบันคอนเทนต์วาย เป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สามารถนำมาใช้เป็นจุดเริ่มต้นเปิดช่องทางการตลาดใหม่เพื่อสนับสนุนและยกระดับธุรกิจภาคบริการไทยสู่สากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงได้จับมือกับ สมาคมส่งเสริมคอนเทนต์ วาย ไทย (Thai Association of Boys Love and Girls Love Content: TBLC) โดยหารือร่วมกับ นายณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม อุปนายกสมาคมฯ และคณะ เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมเปิดมิติใหม่ทางธุรกิจ นำพลังความหลากหลายมาสร้างรูปแบบการตลาดแนวใหม่สร้างการรับรู้ และกระตุ้นความต้องการใช้บริการธุรกิจบริการและสินค้าชุมชนของไทย เช่น ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก สปา บริการสุขภาพ/ความงาม อุตสาหกรรมบันเทิง/แฟชั่น เป็นต้น ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจประเทศ มีศักยภาพต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มนำเสนอการบริการที่ดี มีคุณภาพ และมีอัตลักษณ์การบริการที่โดดเด่นของไทย ผ่าน ‘คอนเทนต์วาย’ ช่วยเปิดมุมมองใหม่ด้านการตลาดและการพัฒนาธุรกิจบริการที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับความหลากหลาย ทำให้เกิดแนวคิดผลักดัน/ส่งเสริมธุรกิจบริการและสินค้าชุมชนของไทยมาเป็นส่วนหนึ่งในคอนเทนต์วายที่สามารถสร้างโอกาสทางการตลาดได้ในวงกว้าง เป็นการเชื่อมโยงตลาดในรูปแบบใหม่ ส่งเสริมธุรกิจบริการและสินค้าชุมชนไทยได้อย่างแนบเนียน
อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า ประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เปิดกว้างและเป็นมิตรต่อกลุ่ม LGBTQ+ ส่งผลให้เกิดโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม (LGBTQ Tourism) ที่ครอบคลุมทั้งการนำเที่ยว (ทัวร์) โรงแรมและที่พักที่เป็นมิตร ร้านอาหาร สถานบันเทิง ธุรกิจแฟชั่น ความงาม สุขภาพ บันเทิง และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งความร่วมมือกับสมาคม TBLC ถือเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ LGBTQ+ กับกลไกสนับสนุนของภาครัฐ ทั้งด้านองค์ความรู้ การเพิ่มช่องทางการตลาด และการต่อยอดสู่ตลาดสากล ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทย ผ่านอุตสาหกรรมบริการและภาพลักษณ์ความเป็นมิตรของสังคมไทย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญต่อการยกระดับมาตรฐานและภาพลักษณ์ของธุรกิจบริการไทยให้ทันสมัย เปิดกว้าง และสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความร่วมมือในครั้งนี้จะได้รับการต่อยอดเป็นโครงการที่เป็นรูปธรรมชัดเจน เช่น การจัดอบรมพัฒนาทักษะผู้ประกอบการให้เข้าใจตลาดเฉพาะกลุ่ม และการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางธุรกิจและบริการที่เปิดกว้างและเป็นมิตรต่อทุกเพศสภาพ
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีบรรยากาศทางสังคมเปิดกว้างที่สุดสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนให้ความสนใจประเทศไทยมากขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทย และยกระดับประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจบริการสำหรับทุกกลุ่มอย่างยั่งยืน
กรมฯ จะพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมในการส่งเสริมและยกระดับผู้ประกอบการไทย ทั้งด้านมาตรฐานการบริการ การตลาดเชิงสร้างสรรค์ และการขยายโอกาสสินค้าชุมชนของไทยสู่ตลาดโลก โดยอาศัยศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ที่หลากหลายมิติของสังคมไทย เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผสาน ‘การให้บริการอย่างมืออาชีพ’ กับ ‘คอนเทนต์วาย’ เพื่อเสริมความหลากหลาย สนับสนุนธุรกิจบริการ ส่งเสริมภาคบริการไทยให้มีความเข้มแข็งและพร้อมแข่งขันทั้งระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และระดับส่งออก ต่อไป” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0 2547 5159 เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th และ Call Center 1570