
ลอรีอัล กรุ๊ป ผู้นำด้านความงามระดับโลก เปิดตัวแคมเปญระดับโลกครั้งแรกภายใต้แนวคิด#JoinTheRefillMovement ผนึกกำลังหลากหลายแบรนด์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ และช่องทาง ที่ครอบคลุมทั่วทั้งโลก รวมถึงประเทศไทย
แคมเปญนี้มุ่งสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักเนื่องในวัน “World Refill Day” ในวันที่ 16 มิถุนายน โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคร่วมปรับพฤติกรรมและพิจารณาการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รีฟิลในส่วนการใช้ผลิตภัณฑ์ความงาม และร่วมกันขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยมีแบรนด์ชั้นนำในเครือลอรีอัล กรุ๊ปร่วมแคมเปญครั้งนี้ ได้แก่ ลังโคม (Lancôme), อาร์มานี่ บิวตี้ (Armani beauty), อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ โบเต้ (Yves Saint Laurent Beauté), คีลส์ (Kiehl’s), ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris), เคเรสตาส (Kérastase), ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล (L’Oréal Professionnel), เซราวี (CeraVe) และ ลา โรช-โพเซย์ (La Roche-Posay)

แคมเปญเน้นการใช้สื่อและคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียที่สะดุดตา และใช้แฮชแท็ก #JoinTheRefillMovement เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้ามามีบทบาทและขยายแรงสนับสนุนในวงกว้าง ทั้งยังจับมือกับพันธมิตรค้าปลีกรายใหญ่ทั่วโลก เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ของทางเลือกรีฟิลสำหรับผลิตภัณฑ์ความงามที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ดูแลเส้นผม เมคอัพ ที่มีดีไซน์ของรีฟิลแพคเกจจิ้งหลากหลายรูปแบบ
#JoinTheRefillMovement คือการตอบสนองที่เป็นรูปธรรมของลอรีอัล ต่อความต้องการของผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนที่เพิ่มมากขึ้น โดยเน้นการสร้างความตระหนักรู้ถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์รีฟิล แม้ว่าจะมีผู้บริโภคถึงร้อยละ 78 ที่แสดงความสนใจในการเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เติมใหม่ได้ แต่หลายคนยังไม่ทราบว่ามีทางเลือกแบบรีฟิลซึ่งไม่เพียงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีราคาที่คุ้มค่ากว่า เช่น การเลือกซื้อขวดน้ำหอมรีฟิล Idôle ขนาด 100 มล. จากลังโคม แทนการซื้อขวดใหม่ขนาด 50 มล. สองขวด จะลดการใช้แก้วลงถึง 42% พลาสติก 11% โลหะ 66% และกระดาษแข็ง 30% ทั้งยังมีราคาลดลง 11%
บลังก้า จูที (Blanca Juti) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรและสื่อสารสัมพันธ์ของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า “แคมเปญนี้คือการประสานกำลังแบรนด์ระดับไอคอนิกของเรา เพื่อเชิญชวนให้ผู้บริโภคทั่วโลกมาร่วม #JoinTheRefillMovement เราอยากให้ทุกคนสัมผัสได้ว่า การเปลี่ยนมาใช้รีฟิลนั้นทั้งง่าย คุ้มค่า และเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรความงามในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว”
เอซกี้ บาร์เซนาส (Ezgi Barcenas) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม (Chief CorporateResponsibility Officer) กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมความงามระดับโลก เรามีทั้งโอกาสและความรับผิดชอบในการขับเคลื่อนแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน และกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมนี้ การจะบรรลุวิสัยทัศน์นี้ในระดับที่กว้างขวางได้นั้น ต้องอาศัยมากกว่านวัตกรรม เราต้องใช้ทั้งความตั้งใจและการลงมือทำ เราจึงระดมพลังจากแบรนด์ พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้บริโภค เพื่อทำให้การรีฟิลกลายเป็นวีถีชีวิตใหม่สำหรับทุกคน”
แคมเปญนี้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจเพื่อความยั่งยืนของลอรีอัลในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนำเสนอทางเลือกผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้บริโภค โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ลอรีอัล กรุ๊ป ได้ปรับกระบวนการผลิตในโรงงานทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้มีผลิตภัณฑ์แบบรีฟิลเพิ่มขึ้นถึง 17 เท่า ที่รวมถึงผลิตภัณฑ์น้ำหอมชายและหญิงยอดนิยมระดับโลกหลายรายการ
การร่วมสร้างความตระหนักใน World Refill Day ปีนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของลอรีอัล กรุ๊ป ในการส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนร่วมกับผู้บริโภค และลอรีอัล กรุ๊ป จะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันลดขยะ และสร้างอนาคตที่ยั่งยืน