
บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT รายงานผลการดำเนินธุรกิจประจำไตรมาส 2 ปี 2568 มีรายได้จากการให้บริการเท่ากับ 258.53 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจำนวน 44.47 ล้านบาท เผยหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและและสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงทิศทางปริมาณรถที่ยังหมุนเวียนไหลเข้าสู่ธุรกิจ
นายวรัญญู ศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการในไตรมาส 2/2568 เท่ากับ 258.53 ล้านบาท ลดลง 46.18 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการประมูลเท่ากับ 202.94 ล้านบาท ลดลง 52.91 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 18.32 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” ส่งผลให้จำนวนรถยึดที่เข้าสู่ลานประมูลและปริมาณรถจบประมูลชะลอตัวต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 4/2567
สำหรับงวด 6 เดือนปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการเท่ากับ 522.25 ล้านบาท ลดลง 125.28 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 19.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการประมูลเท่ากับ 424.20 ล้านบาท ลดลง 121.47 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 22.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้ค่าขนย้ายและบริการอื่น ๆ เท่ากับ 98.05 ล้านบาท ลดลง 3.81 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2568 จำนวน 44.47 ล้านบาท ลดลง 38.92 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 10.26 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ตามปริมาณรถจบประมูลที่ชะลอลง สำหรับงวด 6 เดือนปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 99.20 ล้านบาท ลดลง 103.95 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 51.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายสุธี สมาธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) เป็นเผยว่า การขยายระยะเวลาของโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น จากการยกเว้นการยื่นวีซ่านักท่องเที่ยว รวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ย ตลอดจนราคาน้ำมันในประเทศที่ยังคงทรงตัว ปัจจัยบวกเหล่านี้แม้จะมีผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่ขณะเดียวกันความกังวลต่อผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้า สถานการณ์ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ การฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจไทย ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่าย ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงอย่างต่อเนื่อง
แม้ยอดขายรถยนต์ใหม่ไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 (YoY) แต่ภาพรวมยอดขายรถยนต์ใหม่ครึ่งปีแรกของปี 2568 กลับลดลงร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2567 (YoY) ตามทิศทางความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง และสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นประกันยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงทิศทางปริมาณรถที่ยังหมุนเวียนไหลเข้าสู่ธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณภาพหนี้ยังอยู่ในระดับสูง ทั้งสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และสัดส่วนหนี้ ค้างชำระ Stage 2 แต่จากการขยายเวลาโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการชะลอตัวของรถที่จะไหลเข้าสู่ธุรกิจประมูล โดยอัตราการจบประมูลและระดับราคาเฉลี่ยรถจบประมูลทิศทางเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา บริษัท ฯ นอกจากจะติดตามสถานการณ์ของโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” อย่างใกล้ชิดแล้ว ยังดำเนินการเร่งเพิ่มคู่ค้าทางธุรกิจทั้งที่เป็นสถาบันการเงินและที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ตลอดจนวางแผนดำเนินธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลอีกช่องทางหนึ่งเช่นกัน