สมาคมประกันวินาศภัยไทย สร้างความภาคภูมิใจอีกครั้ง หลังได้รับรางวัล “อาคารโดดเด่นด้านความปลอดภัย” ระดับ Bronze ประเภทอาคารทั่วไป ขนาด 2,000 ถึง 10,000 ตารางเมตร จากโครงการประกวดอาคารโดดเด่นด้านความปลอดภัย ประจำปี 2568 หรือ BSA Building Safety Awards 2025 ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร (The Building Inspectors Association) ร่วมกับ กรมโยธาธิการและผังเมือง สภาวิศวกร และหน่วยงานที่กเกี่ยวข้องด้านความปลอดภัย
สำหรับโครงการประกวดอาคารโดดเด่นด้านความปลอดภัย เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้อาคารต่าง ๆ มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุด ทั้งด้านโครงสร้าง ระบบประกอบอาคาร การป้องกันและระงับอัคคีภัย การบริหารจัดการความเสี่ยง ความพร้อมในการรับมือฉุกเฉิน รวมถึงการตรวจสอบอาคาร อุปกรณ์ และระบบด้านความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีเกณฑ์ในการประเมินแบ่งเป็น 5 หมวด ได้แก่ การตรวจสอบอาคาร สมรรถนะของอุปกรณ์และระบบประกอบอาคาร อุปกรณ์ประกอบระบบ การจัดการความปลอดภัย และการดับเพลิง กู้ภัย และอพยพหนีไฟ
ในปี 2568 สมาคมฯ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นปีแรกที่ส่งเข้าประกวด ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ตอกย้ำให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยอาคารเป็นไปตามมาตรฐาน และให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของผู้ใช้อาคารทุกคน โดยมีนายสุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา อุปนายก และกรรมการที่ปรึกษา คณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัยไทย เป็นผู้แทนสมาคมฯ เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ จากนายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องประชุมนริศรานุสรณ์ ชั้น 11 กรมโยธาธิการและผังเมือง ถนนพระรามที่ 6
อนึ่ง อาคารสมาคมประกันวินาศภัยไทย ตั้งอยู่เลขที่ 25 ซอยสุขุมวิท 64/1 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงใต้ เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260 บนพื้นที่ขนาด 1 ไร่ 1 งาน 72 ตารางวา (572 ตารางวา) ก่อสร้างเป็นอาคารสูง 7 ชั้น พื้นที่ใช้สอยรวม 9,661.50 ตารางเมตร ซึ่งอาคารสมาคมฯ เริ่มเปิดทำการมาตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นมา และถือได้ว่าอาคารสมาคมประกันวินาศภัยไทยแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่ง Landmark สำคัญของธุรกิจประกันภัย ที่เป็นศูนย์รวมของบริษัทสมาชิกในการจัดประชุม สัมมนาและจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ และเป็นศูนย์กลางของภาคธุรกิจประกันวินาศภัยในการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยให้เจริญก้าวหน้า สร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจต่อประชาชน และมีเสถียรภาพเคียงคู่เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ